ปี 2012 โลกจะแตกจริงหรอ มาฟังข้อมูลที่แท้จริงกันครับ
ข้อความที่ท่านได้อ่านต่อไปนี้ สามารถเชื่อถือได้ แต่อาจจะไม่ 100 %
ซึ่งผมได้รวบรวมมาจาก Google และทฤษฎีต่างๆที่อ้างอิงได้จริง
Magnetic Pole Reversal ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกด้าน
เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA
ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเ ปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่
เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์
แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเต อร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิ
สิกส์ และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบว นการพลิกกลับของขั้วแม่ เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้าน ปีที่ผ่านมาจนทำให้ สัตว์จำพวกได
โนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี ้จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012
คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน
การ พลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลั บตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลด ลงจนมีค่าเป็นศูนย์ หน่วยกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างห ลีกเลี่ยงไม่ได้
คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก
โดย ปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่ งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุ ไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวง อาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล
คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชินกับพายุสุริยะ
" ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่อง นี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เ หล็ก แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกส ู่อวกาศ >>>แต่ทะว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังส ีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต ่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็ กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียร เหมือนแม
่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโ ลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั
้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศ ักย์ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่ นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุ สุริยะจะห
มดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จ นทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล
็กโลก จะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในค รั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟ ฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเล็งและความร้อน
คำ ถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเก ิดอะไรขึ้นกับโลก <<<<<ต่อไปจากตรงนี้ เชื่อถือไม่ได้แล้วครับ
สิ่งที่ จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อม เป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดควา มหายนะจากพายุสุริยะแค่ เพียงอย่
างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตาม มาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้ งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่น เอง
คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป
เมื่อ โลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมา ย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง........ ...................
หวัง ว่าเพื่อนๆชาว nokiagang พอจะกระจ่างบ้างแล้วนะครับ จะเชื่อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญานส่วนนบุคคลครับ เอาเป็นว่าเพื่อนๆคิดเห็นยังไงกับเหตุการณ์นี้ และถ้ามันเกิดขึ้นจริง เพื่อนๆคิดว่าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตอย่างไรในปัจจุบัน เพื่อเผชิญหน้ากับมัน ครับ
อันนี้อีกหันหนึ่งการทำนาย ของชนเผ่ามายัน "โปรดใช้วิจารณาในการอ่าน"
21-12-2012 DoomDay มหาวิบัติวันล้างเผาพันธ์มนุษยชาติ!!
ปัจจุบัน (อย่าเพิ่งท้อที่จะอ่าน...) บนเว็บบอร์ดตามอินเตอร์เน็ตทั่วโลก...ไม่มีทางที่จะไ ม่มีเรื่องนี้ปรากฎอยู่บนอินเตอร์เน็ตก็คือ 21-12-2012
21-12-2012 คืออะไร? มันมาได้อย่างไร? มีคำตอบที่นี่...
21-12-2012 หมายถึง วันที่ 21 เดือนธันวาคม ค.ศ.2012 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในปฎิทินชาวมายัน...
ปฎิทินชาวยัน คือ ปฏิทินโบราณของชนเผ่าที่ชื่อว่า "มายัน" (บางทีจะเรียกว่า 'มายา') ในสมัยโบราณนั้น ชนเผ่ามายัน เป็นชนเผ่าที่มีความสามารถในการคำนวณปีทางสุริยคติได ้อย่างแม่นยำที่สุด จะเห็นได้จากการคำนวณในปัจจุบันของเรา ซึ่งอยู่ที่ 365.2420 วัน ขณะ ที่การคำนวณของชนเผ่า มายัน ซึ่งใช้วิธีการคำนวณตามแบบของตนเองและอุปกรณ์ต่างๆ จากพีระมิดที่สูงที่สุดของเขาจะคำนวณได้ 365.2420 แตกต่างกันเพียง 0.0002 ของหนึ่งวัน ซึ่งการคำนวณครั้งนี้ปรากฏมาตั้งแต่ระยะเวลาหลายพันป ีที่แล้ว ก่อนหน้าที่ชาติอื่นๆ จะคำนวณปฏิทินทางสุริยะคติได้อย่างแม่นยำเช่นนี้ แล้วชาว มายัน สามารถคำนวณจากการสังเกตดวงดาวได้อย่างแม่นยำก่อนหน้ าที่จะมีการประดิษฐ์กล้องส่องดูดาวขึ้นมาได้อย่างไร? *ปัจจุบัน ปฏิทินที่เราใช้กันอยู่ก็มาจากชาวมายันนั้นเอง
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ณ วันนั้น?
เป็นคำถามที่ทุกๆคนถามถึง...ซึ่งทางวิทยาศาสตร์, โหราศาสตร์, โบราณคดี, การทำนาย...ได้ให้คำตอบไว้แล้ว ซึ่งดันมาตรงกับ 21-12-2012 พอดิบพอดี (เหลือเชื่อ - -)
ทางวิทยาศาสตร์ - "วัน นั้นจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า 'การพลิกขั้วกลับของสนามแม่เหล็กโลก' จากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทำนายการพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจนำมาสู่การสิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ในปี 2012..."
Click the image to open in full size.
แบบจำลองการพลิกขั้วของสนามแม่เหล็กโลก
จาก การทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น
ใน การค้นคว้าวิจัยส่วนตัวและของบริษัท ได้วิเคราะห์หรือทำนายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Hyderabad ซึ่งมีแนวโน้มเกี่ยวกับการยกระดับพลังงานขึ้นสูงสุด จะเกิดขึ้นในปี 2012 นี้
การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแห น่งกัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย ์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆสิบเอ็ ดปีพอดี
ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัวที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูก บันทึกมาก่อน แต่ในปัจจุบัน, แบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริ งได้ ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับการพลิกกลับขั้วจะทำ คุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อนแอและเบี่ยงเบนไป แต่ไม่ใช่ศูนย์
ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลกและดวงอาทิตย์สามารถเ ป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจังดังต่อไปนี้
- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)
- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ ่อนอย่างมาก
- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม
- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล ้โลกได้ง่ายขึ้น
-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ทางโหราศาสตร์ - บ่งบอกว่าจะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์
ทางโบราณคดี - อย่างที่พูดข้างต้นไว้...เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของช าวมายัน
ทางการทำนาย - นอสตราดามุสได้ทำนายไว้กับราศีตีความแล้วสอดคล้องกับ ทางโหราศาสตร์
ทางด้าน UFO - ผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อ้างว่ามนุษย์ต่างดา วได้บอกเค้า(แล้วแต่ความเชื่อ...มีภาพประกอบ)
Click the image to open in full size.
แผนที่โลกใบใหม่ โดย Gordon-Michael Scalion ทำเสร็จเมื่อปี 2525
Click the image to open in full size. Click the image to open in full size.
แผนที่โลกใบใหม่ในส่วนเอเชีย และส่วนขยายประเทศไทย
ตาม ภาพข้างบนนะ...ประเทศไทยจะยังเหลืออยู่บางส่วนตาม ภาพที่ขยายออกมา ซึ่งคงได้ยินกันมาอยู่บ้างว่า ประเทศไทยจะเหลือมากที่สุดคือภาคเหนือ ส่วนอีสานบางส่วน และภาคใต้จะจมลงไปในทะเลพร้อมกับมาเลเซีย สิงคโปรและอินโดนีเซีย ส่วนชายฝั่งทะเลจะมาอยู่ที่ชัยภูมิ เพรชบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัยและตาก และแม่น้ำโขงจะกลายจากแม่น้ำเป็นทะเล
สำหรับในบ้านเรา คุณหมอประสาน ต่างใจ เคยพูดเอาไว้ในงานเสวนา “พุทธศาสตร์กับอนาคตโลก” ถึงการละลายของน้ำแข็งบนยอดเขา จำนวน 19 ร้อยล้านตันว่าจะใช้เวลาอีกราว 5-7 ปี ซึ่งละลายหมดในปี ค.ศ.2012 เช่นเดียวกันกับปฏิทิน 22 ของชาวเผ่ามายา ได้ทำปฏิทินเอาไว้ที่ 5,000 ปี โดยแต่ละเดือนจะมี 20 วัน โดยเชื่อว่า โลกในวันสุดท้ายคือ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012 พระเจ้าของพวกเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งนั่นเอง
ต่อไปนี้คือความบังเอิญของตัวเลข
"ไม่ ว่าจะทางใด ดูจากหลาย ๆ ทางแล้วชี้ไปในปีเดียวกัน ความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2012 นั้นน่าจะมีอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ ในปัจจุบันผมมั่นใจว่ามันน่าจะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยสังเกตุจากผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี่เอง เมื่อกลับมามองดูปี 2012 ก็เลยมานั่งพิจรณาดูเล่น ๆ (การนับเลขฐานสิบจะนับศูนย์ถึงเก้า) ถ้าเราตัดเลขสองออกก็จะได้เลขนับ 0->1->2 เมื่อมาดูเป็นปี พ.ศ. มันเป็นปี 2555 (เลยสวยมาก) ถ้าเราตัดเลขสองออกเช่นกัน จะได้เลข 5 เรียงตัวกัน 3 ตัวผมขอโยงไปเรื่องโหราศาตร์ที่จะมี โลก กาแล็คซี่ และดวงอาทิตย์ ที่จะเกิดการเรียงตัวกัน ผลลัพธ์นั้นคงบอกไม่ได้ อาจเกิดผลกระทบรุนแรงต่อโลกหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ ้นเลยก็ได้ เพราะสิ่งที่เราไม่รู้นั้นยังมีอีกมากมายทั้งในอวกาศ และจักรวาล"
อันที่จริงมีมากกว่านี้ แต่ผมเห็นว่ามันค่อนข้างที่จะเวอร์เกิดไปหรือมีการปรุงแต่งนั่นเอง...สุดท้ายนี้ผมไม่อยากให้ทุกคนตื่นตะห นกกับสิ่งที่ผมเล่า...เพราะยังไม่รู้ว่าจะจริงรึไม่ แต่ขอให้ทุกคนทำวันนี้ให้ดีที่สุด เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับ ^^
ทางใครจะ Copy ไป..กรุณาให้เคตดิตไว้ด้วย ใครที่่มันไม่มีจิตสำนึกว่า...คนพิมพ์ใช้เวลากี่ชั่ว โมงกว่าจะเสร็จ ขอให้มันตายๆไปซะ...
ปล. สังเกต...ข้อความข้างต้นไม่พูดถึงว่าโลกจะแตก โลกจะพินาศ เพราะมันยังไม่แตกง่ายๆหรอกสำหรับโลกใบนี้
ปล2. "โปรดใช้วิจารณาในการอ่าน"
ปล3. ไม่ต้องกังวลนะคับ มีโอกาศเป็นจริงน้อยมาก แค่แบ่งปันความรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น