จัดอันดับ 5 ผู้นำที่ตายยากที่สุดของโลก
ข่าวการเมืองปัจจุบันนี้มีมากมายจนน่าเอียนทั้งเรื่องการเมืองเองและเรื่อง ของนักการเมืองก็ดี ซึ่งบางครั้งก็สร้างความเบื่อหน่าย ให้แก่สังคมเรา
เมื่อ พูดถึงบรรดาผู้นำต่างๆหรือนักการเมืองชื่อดังเราก็มักจะนึกถึงเรื่องต่างๆ ที่เขาเคยทำไว้ทั้งดีและร้าย ถ้าทำดีผู้คนก็ยกย่องกันไป แต่หากทุจริตหรือกระทำเรื่องที่เลวร้ายก็อาจจะถูกหมายหัวของผู้ที่ไม่ชอบ หน้าก็เป็นได้ เมื่อพูดถึงการหมายหัวผู้นำต่างๆก็พาให้คิดถึงการรอบสังหารผู้นำทั้งหลายที่ มีอยู่ ทั้งนี้เองจึงได้จัดอันดับผู้นำที่ถูกรอบสังหารมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ดันไม่ตายกันกว่าจะตายก็นานโขเลยทีเดียว
มาที่คนแรกเลยละกัน หากกล่าวชื่อไปไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขาคนนี้ ฮิตเลอร์ ผู้เอาชีวิตรอดจากแผนสังหารกว่า 50 ครั้ง
ผู้นำนาซี ซึ่งเป็นผู้บัญชาให้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวถึงหกล้านคน ซึ่งยังไม่รวมชาวโปแลนด์ อีกสองล้านคนนอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกกว่าสี่ล้านคน ซึ่งนาซีพิจารณาว่า “ไม่ควรมีชีวิตอยู่” (อันประกอบด้วย ผู้พิการ ผู้ป่วยทางจิต เชลยศึกชาวรัซเซีย คนรักร่วมเพศ เป็นต้น) จึงไม่เป็นเรื่องแปลก ที่ฮิตเลอร์จะเป็นเป้าของการปองร้าย จากศัตรูรอบทิศแต่ เขาก็พิสูจน์ ความเป็น “นักการเมืองตายยาก” อันดับหนึ่ง โดยเอาชีวิตรอดจากการลอบสังหารกว่าห้าสิบครั้งได้ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย พร้อมอีวา บราวน์ ภรรยาของตน ในบังเกอร์ ขณะที่เยอรมันกำลังจะพ่ายสงคราม
คนต่อคนนี้อาจจะไม่ค่อยรู้จักเขาเท่าใดนักแต่ถ้าคนที่ศึกษา ประวัติศาสตร์รัสเซียก็จะรู้จักเขาดีนั้นคือ รัสปูติน ผู้ถูกวางยาพิษ ถูกยิง และ ตีซ้ำ แต่ในที่สุดตายสมใจเพราะจมน้ำ
รัสปูติน เป็นนักบวชชาวรัซเซีย ผู้มีพลังจิตพิเศษซึ่งมีบทบาทในยุคปลายราชวงศ์โรมานอฟของประเทศรัสเซีย
การมีบทบาทและอิทธิพลของเขานั้น นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ รัสปูติน ได้รับเชิญให้เข้าไปอยู่ในวัง ภายหลังสามารถรักษาองค์ชายอเล็กซีเอ พระโอรสองค์โตในพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 แห่งรัสเซีย หลังจากรัสปูตินเข้าอยู่ในวังหลวงไม่นาน เขาก็เริ่มจัดงานเลี้ยงเพื่อล้างบาป ซึ่งต้องก็ใช้เงินจำนวนมากมาย ยิ่งนานวัน รัสปูตินยิ่งสั่งจัดงานเลี้ยงล้างบาปบ่อยขึ้นเรื่อย จนดูพร่ำเพรื่อ และผู้คนเริ่มมองว่ารัสปูตินต้องการเสวยสุข
ในที่สุด เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูสชูปอฟ เห็นว่า รัสปูตินจะเป็นภัยต่อชาติ จึงร่วมมือเพื่อสังหารรัสปูติน โดยเชิญเขาไป งานเลี้ยงเล็กๆ ในวังเจ้าชาย และวางยาพิษไซยาไนด์ในเครื่องดื่มและเค้กของรัสปูติน
เมื่อเขากินเค้กจนหมด ก็ยังไม่แสดงอาการอะไร ประหนึ่งไม่ได้รับผลจากยาพิษ เจ้าชายเฟลิกซ์จึงยิงปืนใส่รัสปูตินหลายนัด รัสปูตินก็ยังไม่เสียชีวิต และเดินออกมาข้างนอกวัง
กลุ่มข้าราชบริพารของเจ้าชายเฟลิกซ์ จึงระดมทุบตี และมัดตัวรัสปูตินซึ่งยังไม่ตาย โยนลงไปในแม่น้ำ
ผลการชันสูตร พบสารไซยาไนด์และกระสุนปืนจำนวนมากในร่างของรัสปูติน แต่รัสปูตินเสียชีวิตเพราะจมน้ำ
รัสปูติน เสียชีวิตขณะอายุ 47 ปี
อันดับต่อมาเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นตำนานที่ยัง เดินได้ ฟีเดล คัสโตร ผู้เอาชีวิตรอดจากการลอบสังหาร 638 ครั้ง และ ยังคงหายใจอยู่
คัสโตร ผู้บริหารคิวบา นับเป็นผู้ที่ “ตายยาก” มากที่สุดผู้หนึ่งเฟเบียน เอสคาลันเต ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของคัสโตรประมาณว่า มีความพยายามสังหารคัสโตรโดยซีไอเอ ถึง กว่าหกร้อยครั้งวิธีการก็มีต่างๆนานา จนเหลือเชื่อ รวมถึงการใช้ระเบิดรูปร่างแบบซิการ์
ครั้งหนึ่ง ซีไอเอใช้ มาริต้า ลอเรนซ์ คู่รักเก่าของคัสโตรเพื่อให้วางยาพิษเขา
เมื่อคัสโตรรู้เรื่อง เขาจึงยื่นปืนให้หล่อน พร้อมบอกให้มาริต้ายิงเขาเสียเอง แต่มาริต้าไม่สามารถทำได้
คัสโตร เคยให้สัมภาษณ์ ถึงความพยายามลอบสังหารตนว่า “หากการเอาชีวิตรอดจากการลอบสังหาร เป็นกีฬาหนึ่งในโอลิมปิค ผมคงได้รับรางวัลเหรียญทองแน่นอน”
อันดับต่อมาผู้นำผู้นี้มีเชื้อพระวงศ์ กษัตริย์ฮุซเซน แห่ง จอร์แดน เอาชีวิตรอดจากการลอบสังหาร 12 ครั้ง หนึ่งในนั้น รอดมาได้ เพราะเหรียญที่ติดอยู่กับเครื่องแบบ
ขณะมีชีวิตอยู่ กษัตริย์ฮุซเซนแห่งจอร์แดน ถูกลอบสังหารไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 1950-1960
พระองค์ เคยเขียนไว้ว่า “บางครั้ง ผมรู้สึกเหมือนเป็นตัวละครเอก ในนิยายสืบสวนสอบสวน”การลอบสังหารครั้งแรก เกิดขึ้นขณะพระองค์มีอายุ 15 ปี เมื่อชาวปาเลสไตน์หัวรุนแรงระดมยิงใส่ กษัตริย์อับดุลลาห์ (ขณะนั้น) ซึ่งเป็นปู่ของ ฮุซเซน และเดินอยู่ด้วยกันเสียชีวิต ในปี 1970 กษัตริย์ฮุซเซนถูกระดมยิง ขณะเดินทางอยู่ในกระบวนรถคนขับรถได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระองค์ปลอดภัย กษัตริย์ฮุซเซนสิ้นพระชนม์ด้วยโรคมะเร็งในปี 1999 ด้วยวัย 63 ปี
อันดับสุดท้ายต้องบอกว่าเป็นบุคคลที่เรียกร้องเสรีแก่บ้านเกิด เมืองนอนของตนจริง จนเป็นการขัดแข้งขัดขาชาวบ้านเขาให้ต้องหมายหัวบุคคลนั้นคือ อาราฟัต รอดชีวิตจากการโจมตีด้วยระเบิดหลายครั้ง รวมทั้งจากเครื่องบินตก
ยัสเซอร์ อาราฟัต ผู้นำของชาวปาเลสไตน์ เอาชีวิตรอดจากการลอบสังหารมาหลายครั้งในปี 1985 เขาเอาชีวิตรอดจากแผนสังหาร เมื่ออิสราเอลทำการโจมตีทิ้งระเบิดกองบัญชาการของเขาด้วยเครื่องบิน เอฟ-15 มีผู้เสียชีวิต73 คน อาราฟัตเอาชีวิตรอดอย่างหวุดหวิด เพราะเขาบังเอิญออกไปจ๊อกกิ้ง เขายังรอดชีวิต จากเครื่องบินตก เนื่องจากพายุทรายในทะเลทรายลิเบีย นักบินสองคน และ วิศวกรประจำเครื่องเสียชีวิต ขณะที่เขาเพียงได้รับบาดเจ็บ อาราฟัตเสียชีวิตในปี 2004 เมื่ออายุ 75 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น